ลักษณะของ POST PRODUCER มีอะไรบ้าง?
คุณสมบัติของการเป็น Post Producer เป็นอย่างไร
ต้องเจริญเติบโตได้ในทุกสภาวะ ไม่ต้องผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุณหภูมิเฉลี่ยที่ประมาณ 17-20 องศาเซลเซียส หรือในตอนกลางคืน รากแก้วจะงอกงามเต็มที่พร้อมจะยึดเกาะและดูดซึมแร่ธาตุต่างๆอันอุดมสมบรูณ์จากแหล่งที่อาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดี
และถึงแม้ว่าจะสามารถนำไปเพาะปลูกได้ในทุกสภาพดิน หรือแม้แต่การนำไปปักหรือชำจะสามารถปรับให้เข้าได้ง่ายกับทุกสายพันธุ์แล้วก็ตาม แต่การแตกหน่อหรือการขยายกิ่งยังคงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอันทันสมัยต่างๆเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมอย่างมากในการเสริมสร้างและพัฒนาสายพันธุ์ ให้คงอยู่และอยู่รอดในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
เออ ..(เกิด dead air ประมาณ 3 วิ) อ่านมานาน แล้วไอ้ Post Producer จริงๆ แล้วมันทำอะไรอ่ะพี่ เหมือน Producer ป่ะ
ตอบอย่างสั้นและเข้าใจง่าย Post Producer ก็คือ ตำแหน่งที่ทำหน้าที่ดูแล จัดการ อำนวยความสะดวก ประสานงาน แก้ปัญหาทุกสิ่งอย่าง นับตั้งแต่ถ่ายทำเสร็จ จนกระทั่งหนังโฆษณาที่เราถ่ายได้ออกอากาศนั่นแหละ
การเป็น Post ในความคิดของพวกเรา (อันนี้ก็ถือซะว่าคิดกันเอาเอง) น่าจะเกิดจากการรวมตัวกันของคุณสมบัติ 4 คำนี้
Planning = เป็นนักวางแผน จัดการตัวยง
ก็จัดการมันตั้งแต่...
จัดคิวงานร่วมกันกับ Producer จองคิวห้องสำหรับทำ Telecine Offline, Edit, Fullgrade, VTR ทำเพลง และ Final Mix รวมถึงคิวคนทำงานเริ่มตั้งแต่ Operate ห้อง Telecine Offline, Online, Editor, Music Composer และ Sound Engineer
จองห้องอะไร ที่ไหน ยังไง จะทำกับใครบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มี ความเหมาะสมของงาน และความต้องการของผู้กำกับ
คุมเวลา วันนึงมีหลายงานก็วิ่งกันไป ทำภาพ ทำเสียง จากทำเสียง แล้วกลับมาทำภาพ ทำมันอยู่อย่างเนี่ยะ กระเตงกันไปกะผู้กำกับ คอยดูแล จัดการ ประสานงาน เตรียมงาน เตรียม reference หาข้าวหาปลา เอาอกเอาใจผู้กำกับและคนที่เราทำงานด้วย รวมถึงดูแลลูกค้า ทั้ง Agency และ Product
คุมเงิน ปิดJob เคลียร์บิล เคลียร์เงินกับทางห้องโพสต์ต่างๆ ที่เราไปใช้บริการ งบแหก งบเกินมาอะไร ยังไง ก็จัดแจงต่อราคากันไปให้เรียบร้อย คิดซะว่ามันคือเงินของเรา ใช้ยังไง ให้คุ้มค่า และประหยัดที่สุด ต่ออะไรได้ต่อโลด นึกซะว่าเรากำลังเดิน shopping อยู่จตุจักรก็ละกัน เพลินๆก็จะเลยไปถึงวางแผนเผื่อชีวิตคนรอบข้างตั้งแต่ ผู้กำกับ, ลูกค้า , Operate, Editor, แม่บ้าน เป็นต้น จัดการมันได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง..อิอิ
จัดการแก้ปัญหาต่างๆนานาที่พึงกรูกันเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน นับตั้งแต่เซ็นเซอร์หนังไม่ผ่านเพราะวันนั้นคณะกรรมการเซ็นเซอร์ดันอารมณ์ไม่ดี จริงๆไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับหนัง แค่ไม่อยากให้ผ่านเฉยๆ หรือลูกค้าแก้หนังหลายรอบ เพราะเอาไป Research กับผู้บริโภคมาแล้วไม่ค่อยเข้าใจ หรือส่งคิวที่จองได้ไปให้ล่วงหน้า เพราะกว่าจองได้มามันแสนยากเย็น แต่ลูกค้าบอกมาว่าไม่ได้เพราะcreative ไม่ว่าง ต้องไปตัดสินงาน Award ที่เมืองนอก อ้าว! หาคิวใหม่ หรือสิ่งที่ถ่ายมาใช้การไม่ได้ก็ต้องมานั่งซ่อมกันในห้อง VTR แล้วไง..งบก็ไม่มีให้ ได้แต่บอกว่าช่วยๆกันหน่อย เงินมันน้อยแต่ความต้องการดันเยอะ เป็นต้น สรุปว่าปัญหามีเป็นพัลวัน มีเป็นพันๆ ก็ต้องหาทางแก้กันไปจนกว่าหนังจะได้ออกอากาศ ทำไงได้ปลายทางก็อย่างงี้แหละ
ImaginatiOn = เป็นนักคิด นักจินตนาการ
เพราะ Post ต้องคิดเป็น คิดเร็ว ให้ทันความคิดผู้กำกับและไปในทิศทางเดียวกัน มีจิตนาการ มองเห็นภาพหนังที่เสร็จสมบูรณ์ว่าจะออกมาเป็นยังไง
CommunicationS = เป็นนักสื่อสาร
รักการเจื้อยแจ้ว เจรจา จิ๊จ๊ะ คะขา ทั้งเรื่องที่เป็นสาระ และหาสาระไม่ได้บ้างก็มี เพราะ Post ต้องติดต่อสื่อสารกับบุคคลทั้งภายในและภายนอก office ไหนจองคิว รับบรีฟ และถ่ายทอดสิ่งที่ผู้กำกับและลูกค้าต้องการไปถึงคนอื่นๆที่ทำงานร่วมกับเรา รู้จักต่อรอง เอิ่ม...อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับศิลปะเฉพาะตัวของแต่ละคน
Technology = เป็นนักเทคโนโลยี
เทคโนโลยีที่พูดถึงก็เริ่มนับมันตั้งแต่เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงาน จะ Software, Hardware เครื่องนึง 10 ล้าน 20 ล้าน มันมีกี่ window ลงมือทำมันเองไม่ได้ แต่รู้ว่าเครื่องไหนทำอะไรได้บ้างก็ยังดี จะได้บอกให้คนอื่นเค้าทำได้ถูก ไหนๆ จะ intrend ทั้งทีก็เอามันให้สุด ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเว็บ จะได้รู้ว่าโลกรอบตัวมันหมุนไปถึงไหนแล้ว
- ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนัง คลั่งไคล้เพลง และช่างสังเกต เวลาดู TRAILER หนัง แล้วรู้ว่า สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ย่อมเป็นไปได้ ในฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงบนโลก มันทำได้จาก COMPUTER GRAPHIC แสดงว่า คุณมีแวว
- ถ้าอยู่กับเพื่อน แล้วชอบจัดการ ชอบนัดหมาย ชอบถ่ายรูปมาทำ PROTOSHOP นั่นคุณมาถูกทาง
- ถ้าซื้อของแล้ว ต่อราคาลงครึ่งหนึ่ง แม่ค้ายังยิ้มให้ แถมของอีก คุณใช่เลย
- ถ้าชอบนอกดึก แล้วยังคึก , ตื่นเช้ามาก แล้วยัง Bright มาเจอกันหน่อย
คุณสมบัติของการเป็น Post Producer เป็นอย่างไร
ต้องเจริญเติบโตได้ในทุกสภาวะ ไม่ต้องผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุณหภูมิเฉลี่ยที่ประมาณ 17-20 องศาเซลเซียส หรือในตอนกลางคืน รากแก้วจะงอกงามเต็มที่พร้อมจะยึดเกาะและดูดซึมแร่ธาตุต่างๆอันอุดมสมบรูณ์จากแหล่งที่อาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดี
และถึงแม้ว่าจะสามารถนำไปเพาะปลูกได้ในทุกสภาพดิน หรือแม้แต่การนำไปปักหรือชำจะสามารถปรับให้เข้าได้ง่ายกับทุกสายพันธุ์แล้วก็ตาม แต่การแตกหน่อหรือการขยายกิ่งยังคงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอันทันสมัยต่างๆเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมอย่างมากในการเสริมสร้างและพัฒนาสายพันธุ์ ให้คงอยู่และอยู่รอดในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
เออ ..(เกิด dead air ประมาณ 3 วิ) อ่านมานาน แล้วไอ้ Post Producer จริงๆ แล้วมันทำอะไรอ่ะพี่ เหมือน Producer ป่ะ
ตอบอย่างสั้นและเข้าใจง่าย Post Producer ก็คือ ตำแหน่งที่ทำหน้าที่ดูแล จัดการ อำนวยความสะดวก ประสานงาน แก้ปัญหาทุกสิ่งอย่าง นับตั้งแต่ถ่ายทำเสร็จ จนกระทั่งหนังโฆษณาที่เราถ่ายได้ออกอากาศนั่นแหละ
การเป็น Post ในความคิดของพวกเรา (อันนี้ก็ถือซะว่าคิดกันเอาเอง) น่าจะเกิดจากการรวมตัวกันของคุณสมบัติ 4 คำนี้
Planning = เป็นนักวางแผน จัดการตัวยง
ก็จัดการมันตั้งแต่...
จัดคิวงานร่วมกันกับ Producer จองคิวห้องสำหรับทำ Telecine Offline, Edit, Fullgrade, VTR ทำเพลง และ Final Mix รวมถึงคิวคนทำงานเริ่มตั้งแต่ Operate ห้อง Telecine Offline, Online, Editor, Music Composer และ Sound Engineer
จองห้องอะไร ที่ไหน ยังไง จะทำกับใครบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มี ความเหมาะสมของงาน และความต้องการของผู้กำกับ
คุมเวลา วันนึงมีหลายงานก็วิ่งกันไป ทำภาพ ทำเสียง จากทำเสียง แล้วกลับมาทำภาพ ทำมันอยู่อย่างเนี่ยะ กระเตงกันไปกะผู้กำกับ คอยดูแล จัดการ ประสานงาน เตรียมงาน เตรียม reference หาข้าวหาปลา เอาอกเอาใจผู้กำกับและคนที่เราทำงานด้วย รวมถึงดูแลลูกค้า ทั้ง Agency และ Product
คุมเงิน ปิดJob เคลียร์บิล เคลียร์เงินกับทางห้องโพสต์ต่างๆ ที่เราไปใช้บริการ งบแหก งบเกินมาอะไร ยังไง ก็จัดแจงต่อราคากันไปให้เรียบร้อย คิดซะว่ามันคือเงินของเรา ใช้ยังไง ให้คุ้มค่า และประหยัดที่สุด ต่ออะไรได้ต่อโลด นึกซะว่าเรากำลังเดิน shopping อยู่จตุจักรก็ละกัน เพลินๆก็จะเลยไปถึงวางแผนเผื่อชีวิตคนรอบข้างตั้งแต่ ผู้กำกับ, ลูกค้า , Operate, Editor, แม่บ้าน เป็นต้น จัดการมันได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง..อิอิ
จัดการแก้ปัญหาต่างๆนานาที่พึงกรูกันเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน นับตั้งแต่เซ็นเซอร์หนังไม่ผ่านเพราะวันนั้นคณะกรรมการเซ็นเซอร์ดันอารมณ์ไม่ดี จริงๆไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับหนัง แค่ไม่อยากให้ผ่านเฉยๆ หรือลูกค้าแก้หนังหลายรอบ เพราะเอาไป Research กับผู้บริโภคมาแล้วไม่ค่อยเข้าใจ หรือส่งคิวที่จองได้ไปให้ล่วงหน้า เพราะกว่าจองได้มามันแสนยากเย็น แต่ลูกค้าบอกมาว่าไม่ได้เพราะcreative ไม่ว่าง ต้องไปตัดสินงาน Award ที่เมืองนอก อ้าว! หาคิวใหม่ หรือสิ่งที่ถ่ายมาใช้การไม่ได้ก็ต้องมานั่งซ่อมกันในห้อง VTR แล้วไง..งบก็ไม่มีให้ ได้แต่บอกว่าช่วยๆกันหน่อย เงินมันน้อยแต่ความต้องการดันเยอะ เป็นต้น สรุปว่าปัญหามีเป็นพัลวัน มีเป็นพันๆ ก็ต้องหาทางแก้กันไปจนกว่าหนังจะได้ออกอากาศ ทำไงได้ปลายทางก็อย่างงี้แหละ
ImaginatiOn = เป็นนักคิด นักจินตนาการ
เพราะ Post ต้องคิดเป็น คิดเร็ว ให้ทันความคิดผู้กำกับและไปในทิศทางเดียวกัน มีจิตนาการ มองเห็นภาพหนังที่เสร็จสมบูรณ์ว่าจะออกมาเป็นยังไง
CommunicationS = เป็นนักสื่อสาร
รักการเจื้อยแจ้ว เจรจา จิ๊จ๊ะ คะขา ทั้งเรื่องที่เป็นสาระ และหาสาระไม่ได้บ้างก็มี เพราะ Post ต้องติดต่อสื่อสารกับบุคคลทั้งภายในและภายนอก office ไหนจองคิว รับบรีฟ และถ่ายทอดสิ่งที่ผู้กำกับและลูกค้าต้องการไปถึงคนอื่นๆที่ทำงานร่วมกับเรา รู้จักต่อรอง เอิ่ม...อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับศิลปะเฉพาะตัวของแต่ละคน
Technology = เป็นนักเทคโนโลยี
เทคโนโลยีที่พูดถึงก็เริ่มนับมันตั้งแต่เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงาน จะ Software, Hardware เครื่องนึง 10 ล้าน 20 ล้าน มันมีกี่ window ลงมือทำมันเองไม่ได้ แต่รู้ว่าเครื่องไหนทำอะไรได้บ้างก็ยังดี จะได้บอกให้คนอื่นเค้าทำได้ถูก ไหนๆ จะ intrend ทั้งทีก็เอามันให้สุด ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเว็บ จะได้รู้ว่าโลกรอบตัวมันหมุนไปถึงไหนแล้ว
